สร้างแบรนด์สำหรับสินค้าเดิม ให้ติดตลาด เริ่มต้นยังไง?

สร้างแบรนด์ สำหรับสินค้าเดิม
ให้ติดตลาด เริ่มต้นยังไง?
เข้าใจตัวตนแบรนด์ คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
ในยุคที่การแข่งขันทางการตลาดสูง การ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ไม่ได้เริ่มจากการขาย แต่เริ่มจาก การเข้าใจตัวตนของแบรนด์ ว่าเราคือใคร และต้องการให้ผู้บริโภครับรู้เราแบบไหน การกำหนด Brand Positioning และ Core Value ที่ชัดเจน คือหัวใจสำคัญ เช่น แบรนด์ที่ต้องการสื่อความเรียบง่าย ความจริงใจ หรือความเป็นมืออาชีพ จะต้องถ่ายทอดบุคลิกนั้นผ่านทุกช่องทางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดภาพจำในใจลูกค้า นี่คือขั้นตอนแรกของการสร้างแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์และแตกต่างจากคู่แข่ง
1. กำหนดตัวตนและจุดยืนของแบรนด์ให้ชัด (Brand Positioning)
เราอยากให้คนจำแบรนด์เราแบบไหน?
กำหนด Core Value, Personality, และ Promise ของแบรนด์ให้ชัด
เช่น Apple = เรียบง่ายแต่ทรงพลัง, หรือ Muji = ความเรียบง่ายแบบไร้แบรนด์
ถ้าคุณตอบได้ว่า ลูกค้าจะคิดถึงอะไรเมื่อเห็นชื่อเรา ถือว่ามาถูกทางแล้ว
2. โฟกัสกลุ่มเป้าหมายให้แคบและรู้ลึก
ยิ่งรู้จักลูกค้า ยิ่งสร้างแบรนด์ได้ตรงใจ
สร้าง Customer Persona ชัด ๆ: เพศ อายุ พฤติกรรม ปัญหา และแรงบันดาลใจ
ใช้ข้อมูลจากลูกค้าเดิมมาวิเคราะห์ เช่น feedback, รีวิว, หรือข้อมูลจาก Shopee/Facebook
3. สร้างเอกลักษณ์ทางภาพ (Brand Visual Identity)
เพราะ ภาพจำ สำคัญกว่า คำพูด
กำหนด mood & tone, สีประจำแบรนด์, โลโก้, ฟอนต์, และสไตล์ของภาพ
ให้ทุกช่องทางมีความสม่ำเสมอ (Facebook, Shopee, TikTok, แพ็กเกจ, เว็บไซต์)
4. สื่อสารแบรนด์ด้วยคอนเทนต์ (Brand Storytelling)
คนไม่ซื้อของ แต่ซื้อความรู้สึกและเรื่องราวเบื้องหลังของแบรนด์
สร้างเนื้อหาที่เล่า เหตุผลที่แบรนด์เกิดขึ้น และ คุณค่าที่อยากส่งต่อ
ใช้วิดีโอ, ภาพ, หรือโพสต์สั้น ๆ ที่มีอารมณ์ร่วม เช่น เพราะเรารู้ว่าคุณเหนื่อยจึงอยากให้สิ่งนี้ช่วยคุณ
5. สร้างการรับรู้ผ่านหลายช่องทาง (Omnichannel Awareness)
แบรนด์อยู่ที่ไหน ลูกค้าก็เจอได้ที่นั่น
ใช้ Facebook, TikTok, IG, Website, Shopee/Lazada อย่างมีระบบ
แต่ต้องให้ โทนการสื่อสารเหมือนกันทุกช่องทาง เพื่อสร้างความจำ
6. ใช้พลัง Influencer / Creator
ให้คนอื่นพูดแทนเราจะมีน้ำหนักมากกว่าเราพูดเอง
เลือกอินฟลูฯ หรือครีเอเตอร์ที่ตรงกับกลุ่มลูกค้า ไม่จำเป็นต้องดังมาก
เน้น รีวิวจริง ใช้จริง มากกว่าโพสต์ขายแข็ง ๆ
7. สร้างคอมมูนิตี้ของแบรนด์ (Brand Community)
แบรนด์ที่มีชุมชน จะอยู่ในใจลูกค้านาน
เช่น กลุ่ม Facebook หรือ LINE OA ที่คนพูดคุย แชร์ประสบการณ์
ให้คุณค่ามากกว่าขาย เช่น เคล็ดลับการใช้สินค้า หรือกิจกรรมพิเศษเฉพาะสมาชิก
8. สร้างประสบการณ์ที่ดีทุกจุด (Customer Experience)
แบรนด์ที่ดีไม่ได้ขายเก่ง แต่ทำให้ลูกค้าอยากกลับมา
ตั้งแต่การตอบแชต การแพ็กของ การขอบคุณ ไปจนถึงบริการหลังการขาย
ทุกจุดสัมผัส (Touchpoint) ต้องสะท้อนตัวตนของแบรนด์
9. เก็บข้อมูลและวัดผลต่อเนื่อง (Brand Analytics)
สิ่งที่วัดได้ ปรับได้ และพัฒนาได้
ดูว่าโพสต์ไหน engagement สูง โฆษณาแบบไหนคุ้มค่า
วัดยอดขายจากแต่ละช่องทาง และความถี่ในการกลับมาซื้อซ้ำ
10. ทำแคมเปญสร้างภาพจำต่อเนื่อง (Brand Campaigns)
ต้องมีช่วงเวลาที่ทำให้คนพูดถึงแบรนด์เราได้พร้อมกัน
เช่น แคมเปญ ลองแล้วจะรัก, ของดีจากบ้านเรา, แบรนด์ไทยคุณภาพโลก
ทำให้เกิด การพูดถึง (Buzz) และ แชร์ต่อ (Viral Effect)
วัดผล พัฒนา และสร้างคอมมูนิตี้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง
แบรนด์ที่แข็งแรงไม่ได้เกิดจากการขายเก่งเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการสร้าง ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) ที่ดีทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตอบแชต บริการหลังการขาย ไปจนถึงการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวัดผล (Brand Analytics) เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการสร้าง คอมมูนิตี้แบรนด์ เช่น กลุ่มผู้ใช้สินค้า หรือกิจกรรมออนไลน์ จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากขึ้นในระยะยาว เมื่อทำครบทุกขั้นตอนนี้ แบรนด์ของคุณจะไม่เพียงเป็นที่รู้จัก แต่ยัง ชัดเจนในใจลูกค้า อย่างแท้จริง

สำหรับผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ เมื่อเห็นความสำคัญของการสร้างแบรนด์ในระยะยาวแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ยังไง สามารถให้เราเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ได้ในระยะยาว จากประสบการณ์การสร้างแบรนด์ของบริษัทในเครือมากกว่า 5 ปี และแบรนด์สินค้าของลูกค้าที่เป็นแบรนด์นำเข้าจากอเมริกา เราจะมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ไม่ใช่แค่ลูกค้า จ่ายเงินแล้วจบไป
ดูผลงานเพิ่มเติม

MR. MAR (GET) TING



